วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รวม picture dictionary online

รวม Picture Dictionary สำหรับ young students
http://www.pidic.com/
[ http://picdic.hasfind.net/wordlist.php
http://picdic.hasfind.net/piclist.php ]
http://giraffian.com/pictionary/
http://www.pdictionary.com/
http://www.yindii.com/kids/dictionary/index.htm (คลิกรูปคนเพื่อฟังเสียง)
http://www.enchantedlearning.com/Dictionary.html (คลิกแถบ A B C D...)
http://www.infovisual.info/
http://www.dicts.info/picture-dictionary.php
http://www.picturedic.com/index.php
* * * * *

สวัสดีครับ
ผมรวบรวมดิกชันนารีภาพ หรือ picture dictionary ไว้ข้างล่างนี้ อาจจะมีบางเล่มที่ท่าน ใช้ประโยชน์ได้
1. เว็บของ Google: http://www.google.com/imghp?hl=en&tab=wi&q= พิมพ์คำอังกฤษ หรือไทยก็ได้ ในช่อง search

2. เว็บของ Yahoo: http://images.search.yahoo.com/search/images พิมพ์คำอังกฤษ หรือไทยก็ได้ ในช่อง search

3. เว็บของ Altavista: http://www.altavista.com/image/default พิมพ์คำอังกฤษ หรือไทยก็ได้ ในช่อง search

4. เว็บของ Free Search: http://www.freesearch.co.uk/pictures

5. http://www.text-reader.com/picdic/index.shtml มีทั้งหมด 105 หน้า / แต่ละหน้าคือ 1 หมวดภาพ (เอาเมาส์ไปวางที่แถวลูกศรด้านบนหรือด้านล่างของหน้าเพื่อเลื่อนขึ้น – ลง) / คลิกบรรทัดที่ต้องการ / อาจต้องรอนิดนึงเพื่อดาวน์โหลดภาพ / คลิกที่หมายเลขบนภาพเพื่อดูคำศัพท์ / เว็บนี้ดีมากครับ

6. http://www.infovisual.info/ เป็นดิกชันนารีภาพที่ดีทีเดียวครับ

ส่วน 7 เว็บข้างล่างนี้ ศัพท์น้อยกว่า 5 เว็บข้างบน และส่วนใหญ่เป็นศัพท์ทั่วไป
7. http://www.pdictionary.com/
8. http://www.enchantedlearning.com/DictionaryA.html
9. http://www.yindii.com/kids/dictionary/index.htm
10. http://dictionary.reference.com/illus/ หรือhttp://www.bartleby.com/61/indexillus.html
11. http://simple.wikipedia.org/wiki/Basic_English_picture_wordlist
12. http://www.washjeff.edu/capl/ ที่ขวามือใต้คำว่า Search ให้คลิกเลือก English word
13. http://www.englishbanana.com/pdicthome.html (23 พย 50)
คลิกศัพท์คำที่ต้องการ, คลิกที่ภาพเพื่อดูศัพท์คำอื่น ๆ ประกอบภาพนั้น

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๗:๔๓

เล่นเกม 20 คำถามกับคอม

สวัสดีครับ
ผมคิดว่าหลายท่านคงเคยเล่นเกม “20 คำถาม” ที่ให้คนหนึ่งนึกอะไรสักอย่างในใจ และให้คนอื่น ๆ ถามคำถามได้ 20 คำถาม แต่ต้องเป็นคำถามที่ตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เท่านั้น เมื่อถามครบ 20 คำถามแล้ว ต้องเดาตอบออกไปว่าคืออะไร ? นี่เป็นเกมที่สนุกนะครับ ยิ่งเล่นหลายคนยิ่งสนุกมาก

และวันนี้ผมไปเจอเกม “20 คำถาม” ออนไลน์ หรือ “Twenty Questions” เกมนี้เขาให้เราเล่นกับเครื่อง (ซึ่งฉลาดยังกะคน) โดยเราเป็นคนนึกสิ่งที่เป็นปริศนาไว้ในใจ เครื่องก็จะถามเราไปทีละคำถาม ๆ (เขียนใส่แผ่นกระดาษไว้ดีกว่าครับว่า คำที่นึกคืออะไร? ห้ามโกงเครื่องนะครับ)

ท่านจะคลิกเพื่อเข้าไปเล่นตอนนี้เลยก็ได้ครับ http://y.20q.net/anon?HgD7Qh-2NzktjdXhrZ8xNtNCq4Mg37v!3oxm7Mllv

แต่ผมขออนุญาตแนะนำวิธีเล่นสักนิดนะครับ ผมลองเล่นดูแล้วหลายเกม และก็เป็นอย่างที่เขาเตือนไว้จริง ๆ คือเล่นแล้วติด คลิก วิธีเล่นเกม 20 คำถาม

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๑๗:๒๔

ฝึกภาษากับ โปรแกรม

สวัสดีครับ
ผมนึกถึงท่านที่อยู่ต่างจังหวัดและต่อเน็ตยาก ถ้าต้องต่อเน็ตทุกครั้งที่จะเรียนภาษาอังกฤษ อาจจะเหนื่อยมาก และไม่อยากต่อ และก็ไม่อยากเรียน

แต่ที่เว็บนี้ http://www.thaiware.com/main/ เขามีโปรแกรมประเภทใช้ฟรี หรือ freeware ให้เราดาวน์โหลดมาลงเครื่องไว้ และสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องต่อเน็ตทุกครั้งๆ ที่นี่ครับ:

1. โปรแกรมช่ายฝึกภาษาอังกฤษ
http://www.thaiware.com/main/search.php?Group_ID=31

2. โปรแกรมประเภทดิกชันนารี
http://www.thaiware.com/main/search.php?Group_ID=123

ท่านลองเข้าไปในเว็บของเขา และเลือกดูนะครับว่า ในหลายๆโปรแกรมที่เขามีไว้ให้นั้น โปรแกรมไหนบ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อท่านหรือบุตรหลานในการฟิตภาษาอังกฤษ

เนื่องจากโปรแกรมเหล่านี้ไม่มีให้เราทดลองเล่น online ฉะนั้น ท่านคงต้องยอมเหนื่อยและเสียเวลาสักนิดในการดาวน์โหลด , ติดตั้ง , และลองใช้งานสักพักจึงจะรู้ว่าดีไม่ดีอย่างไร สมพงศ์กับท่านไหม แต่ผมเชื่อว่า น่าจะมีหลาย ๆ โปรแกรมที่ท่านจะรู้สึกถูกใจมาก - ถูกใจมากกว่า - หรือถูกใจมากที่สุด

ถ้าติดขัดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลด-ติดตั้ง-หรือใช้งาน ก็อย่าเพิ่งท้อ ทนนิดนึงนะครับ

ถ้าชอบใจโปรแกรมใดก็สามารถ save ใส่แผ่น CD หรือ thumb drive เอาไปลงหลายๆเครื่องหรือแจกจ่ายให้เพื่อนฝูงก็ดีครับ
InterelaDSD

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๑๔:๕๗

เรียนภาษาจากหนังสือพิมพ์

สวัสดีครับ
มีหนังสือพิมพ์ วารสารหรือนิตยสาร เกี่ยวกับประเทศไทย อยู่หลายฉบับทีเดียว ที่ท่านสามารถหาอ่านจากเน็ต ไปที่ลิงค์นี้ครับ : http://www.onlinenewspapers.com/thailand.htm

และในจำนวนนี้ มีที่คนไทยรู้จักดีกว่าเพื่อนอยู่ 2 ฉบับ คือ
1. The Nation : http://www.nationmultimedia.com/
และ 2. Bangkok Post : http://www.bangkokpost.com/

และในจำนวน 2 ฉบับนี้ ถ้าท่านต้องการเรียนภาษาจากหนังสือพิมพ์ ผมแนะนำให้ท่านเอาหนังสือพิมพ์ Bangkok Post เป็นครูครับ

เหตุผลก็เพราะว่า เว็บภาษาอังกฤษในเครือของ Bangkok Post นี้ นอกจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ซึ่งการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับดีที่เราสามารถลอกเลียนเพื่อเรียนรู้แล้ว ยังมีเว็บเครือข่ายอื่นๆให้เราค่อยๆศึกษาจากง่ายไปยากอีก 3 เว็บครับ ดังนี้

1. เว็บนิตยสาร Student Weekly
A นิตยสาร Student Weekly นี้มีวางขายตามแผงหนังสือราคาเล่มละ 10 บาทถ้าท่านไม่ชอบนั่งหน้าจอนานๆก็สามารถไปซื้อหามาอ่านได้ครับ ผมเองก็ได้อาศัยนิตยสารเล่มนี้ช่วยฟิตภาษาอังกฤษมาก่อนตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ ตอนนี้ Student Weekly มีให้เราอ่านทางเน็ต ก็สะดวกขึ้นเยอะทีเดียว

เขาอธิบายตัวเขาเองว่าอย่างนี้ครับ Student Weekly is Thailand’s most popular educational weekly tabloid. It’s filled with many interesting articles, interviews, exercises, and reviews, which have all been simplified for students for easier understandings. (Student Weekly เป็นนิตยสารเพื่อการศึกษารายสัปดาห์ขนาดแทบลอยด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเมืองไทยมีเนื้อหาน่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย บทความ บทสัมภาษณ์ แบบฝึกหัดและรีวิวต่างๆ โดยเขียนใช้ภาษาง่ายๆให้นักศึกษาเข้าใจไม่ลำบาก)

เมื่อเข้าไปที่เว็บนี้แล้ว ให้ท่านดูที่มุมขวามือ จะพบว่ามีลิงค์ให้ท่านเลือกคลิกศึกษา คือ
Education
Entertainment
Inside Story
Happenings
Wired World
Back issues
SW Forum
ทุกลิงค์มีเรื่องให้อ่าน – เล่น – ทำ ที่ไม่ยากเกินไป และน่าสนใจ ทันสมัย
อ้อ! แจ้งนิดนึงครับ ถ้าท่านไปเจอข้อความ “Ads by Google” หรือ “Advertise on this site” แสดงว่าลิงค์ข้างใต้นี้เป็นโฆษณา ถ้าท่านไม่อยากอ่านโฆษณาก็ไม่ต้องไปคลิกนะครับ

2. เว็บที่ 2 คือ เว็บฝึกภาษาจากข่าว Read Bangkok Post : http://www.readbangkokpost.com/
เว็บนี้เป็นคล้ายๆกับบันไดขั้นแรก สำหรับท่านที่ยังไม่พร้อมที่จะอ่านหนังสือพิมพ์ Bangkok Post โดยตรงก็มาที่เว็บ read Bangkok Post ซะก่อน

ให้ท่านดูที่คอลัมน์ซ้ายมือ ใต้คำว่า Timely content นั้น จะมีการเปลี่ยนเนื้อหาบ่อยๆตามช่วงที่ Bangkok Post นำลงตีพิมพ์ แต่ใต้คำว่า Timeless เนื้อหาจะไม่เปลี่ยนคือจะเป็นข้อแนะนำต่างๆในการศึกษาภาอังกฤษ
จากประสบการณ์ของผมในการปล้ำอ่านภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง ผมว่ามันมีเรื่องยากอยู่ 3 ด่าน ที่ต้องฝ่าไปให้ได้ คือ
ด่านที่ 1 ไม่รู้ศัพท์ เดาไม่ออก เลยต้องเปิดดิกบ่อยๆ
ด่านที่ 2 พอเปิดดิกแล้ว บางทีศัพท์ตัวหนึ่ง มีตั้ง 10 ความหมาย และก็ไม่รู้ว่าความหมายไหน ตรงกับเนื้อเรื่องที่กำลังอ่าน
ด่านที่ 3 เอาละ ถึงแม้ว่าบางทีเลือกความหมายได้ถูกต้องก่อนแล้ว ถ้าเรื่องที่อ่านยากเกินไปหรือไม่คุ้นเคย ก็ยังอ่านไม่รู้เรื่องอยู่นั่นแหละ เหมือนอ่านตำราเศรษฐศาสตร์หรือกฎหมายภาษาไทย ทั้งๆที่มันเป็นภาษาไทยก็ยังอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะเนื้อเรื่องมันยาก อ่านแล้วต้องตีความซึ่งตีไม่ค่อยแตก

แต่ที่เว็บ read Bangkok Post นี้ ผมดูแล้วเขาพยายามช่วยคนเรียนภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เริ่มตั้งแต่เขียนด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่ซับซ้อน อธิบายความหมายของศัพท์ยาก (ใช่ครับ อธิบายเป็นภาษาอังกฤษ) หาเนื้อเรื่องที่น่าสนใจไม่ยากแสนเข็ญหรือน่าเบื่อมาให้อ่าน ผมเชื่อว่าลิงค์ read Bangkok Post นี้จะเป็นตัวช่วยให้ท่านผ่านทั้ง 3 ด่านนี้ โดยไม่เหนื่อยมากนัก

3. เว็บ Learning Post : http://bangkokpost.net/education/site.htm
เป็นเว็บสุดท้ายเพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษในเครือ Bangkok Post เมื่อเข้าไปแล้วจะพบว่า เขาแบ่งเป็น 4 หัวข้อใหญ่ๆ ให้เราศึกษา คือ
Improving Your English
Teaching Tips
Reading Tips
และ Our other Service

เนื้อหาของเว็บนี้ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆเหมือนเว็บ Student Weekly และ Read Bangkok Post แต่ก็มีคำแนะนำพื้นฐานที่มีประโยชน์มากๆในการปรับปรุงทักษะภาษาอังกฤษโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่าน

การเรียนภาษาอังกฤษจากหนังสือพิมพ์นี้ตามความเห็นของผมมีประโยชน์มาก ๆ อย่างน้อย 2 อย่าง คือ
1. ศัพท์ – สำนวนที่ใช้ร่วมสมัย พบบ่อย เราจำเอาไปใช้ได้ทั้งในการฟัง – พูด – อ่าน – เขียน และคุ้มค่ากับเรี่ยวแรงที่ลงทุนจำ เหมือนซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านและได้ใช้ทุกวัน ไม่ใช่ปล่อยไว้จนฝุ่นเกาะ
2. เนื้อเรื่องทันสมัย – ทันเหตุการณ์ และมีหลายเรื่องที่ไม่มีให้เราอ่านเป็นภาษาไทย การได้อ่านภาษาอังกฤษอีกภาษาหนึ่งจึงมีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะเป็นสาระหรือบันเทิง

รุ่นน้องของผมบางคนบอกว่า ภาษาอังกฤษคือ 'ทรมานบันเทิง' คือ ต้องทนทรมานเสียก่อนจึงจะได้บันเทิงทีหลัง ผมอยากจะเพิ่มเติมสักนิดว่า ในช่วงแรกๆอาจจะทรมานมากแต่บันเทิงน้อย ทว่าต่อไปๆก็จะทรมานน้อยและบันเทิงมากขึ้นเอง ส่วนสาระนั้นมีมากขึ้นทุกวัน ทั้งนี้เพราะภาษาอังกฤษคือสาระและบันเทิงโดยแท้
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๙:๓๐

วิธีเขียนใบสมัครขอทุนไป ตปท.

สวัสดีครับ
ก่อนที่ท่านจะอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่อง วิธีเขียนใบสมัครขอรับทุนไปอบรมต่างประเทศนี้ ผมขอเชิญอ่านให้เห็นภาพทั้งหมดก่อน…

ทันทีที่กรมเวียนหนังสือแจ้งให้ผู้สนใจส่งใบสมัครรับทุนอบรมต่างประเทศ หากท่านสนใจอยากจะไปนั่งในชั้นเรียนที่เมืองนอก มีเรื่องที่ท่านต้องทำ 6 ขั้นตอนดังนี้ครับ
1. เขียนแบบฟอร์มชั้นต้นเป็นภาษาไทย (แบบทุน 1) ส่งให้ฝ่ายประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือฝ่ายวิเทศฯ เดิม
2. เข้าห้องสอบและผ่านการสอบภาษาอังกฤษระดับกรม , ระดับกระทรวง และระดับประเทศ (ไปสอบที่กรมวิเทศฯ) ตามลำดับ (กรมวิเทศฯ ชื่อใหม่คือ สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือเรียกสั้นๆ ว่า TICA ไทก้า)
3. ถ้าสอบไทก้าผ่าน ก็จะต้องเขียนใบสมัครตามแบบฟอร์มการสมัครขอรับทุนเป็นภาษาอังกฤษ ตามที่ประเทศเจ้าของทุนกำหนด
4. ไทก้าส่งใบสมัครนี้ไปให้เจ้าของทุนพิจารณา
5. ถึงตอนนี้ท่านก็รอประเทศเจ้าของทุนตอบมาว่า เขาจะรับหรือไม่รับท่านเข้าอบรม
6. ถ้าเขารับ ท่านก็เตรียมเดินทางได้เลย เช่น ทำหนังสือเดินทาง ขอวีซ่า ร่ำลาเพื่อน – บุตร – ภรรยา - แฟน และนั่งรถไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ

เรื่องที่ผมจะคุยกับท่านในวันนี้ เฉพาะข้อ 3 คือ การเขียนใบสมัครเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าท่านจะต้องผ่านข้อ 1 และข้อ 2 มาก่อน ซึ่งผ่านไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะข้อ 2
ทำไมการเขียนใบสมัครจึงสำคัญนัก มันสำคัญก็เพราะว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ประเทศเจ้าของทุนเอาไปดูและตัดสินใจว่า จะรับหรือไม่รับท่านเข้าอบรมที่ประเทศของเขา เพราะฉะนั้นท่านจะต้องทำให้ใบสมัครของท่านพูดได้ และต้องพูดได้น่าฟัง จนเขาเคลิ้มและคล้อยตามและเลือกท่านเป็นผู้รับทุนของเขา

แล้วจะเขียนกันยังไงล่ะครับ… ใบสมัครที่ว่านี้?

แต่ละประเทศที่ให้ทุนจะมีแบบฟอร์มใบสมัครไม่เหมือนกันเด๊ะ แต่สาระสำคัญมักไม่ต่างกัน คือ ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป งานที่ทำ และถามท่านว่าจะเอาความรู้ที่ได้รับจากการอบรมมาใช้ในอนาคตได้อย่างไร

การที่จะเขียนใบสมัครให้น่าสนใจ ท่านต้องมีข้อมูลบางอย่างตุนไว้ก่อน ถ้าไม่มีต้องไปหามาอ่านก่อนที่ท่านจะลงมือเขียนใบสมัคร น่าจะมีพวกนี้ครับ
1. เอกสารที่ไทก้าส่งมาให้ โดยมากก็จะให้รายละเอียดย่อยๆเกี่ยวกับวิชาในคอสที่จะเรียน
2. ท่านควรเข้าไปที่เว็บไซต์ของหน่วยงานเจ้าของทุน บางทีเขาไม่ได้แจ้งไว้ ท่านต้องหาเอง ในเว็บนี้น่าจะมีสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการเขียนใบสมัคร
3. ถามข้อมูลจากไทก้าเกี่ยวกับทุนเดียวกันนี้ที่เคยให้คนไทยในปีก่อนๆ
4. คุยกับคนไทยที่เคยรับทุนนี้มาก่อน อาจจะถามเบอร์โทรศัพท์ได้จากไทก้าหรือสถานทูตของประเทศนั้นที่อยู่ในกรุงเทพก็ได้
ทำไมต้องหาข้อมูลเยอะแยะอย่างนี้ คำตอบก็คือ ถ้าจะทำให้เขาเลือกท่านในใบสมัครของท่าน จะต้องมีสิ่งดึงดูดใจให้เขาเลือก คือสิ่งที่ท่านเขียนในใบสมัครมันตรงกับธงหรือเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ในการคัดเลือกคนจากประเทศอื่นเข้าอบรมฟรีที่ประเทศของเขา

ฉะนั้นข้อมูลจาก 4 แหล่งข้างบน เมื่ออ่านและย่อยเสร็จแล้ว ท่านน่าจะตอบคำถามต่อไปนี้ได้ชัดเจน เช่น
1. แหล่งทุนต้องการผู้สมัครที่มี background หรืออดีตอย่างไร เช่น ประสบการณ์การทำงาน หรือการศึกษาแบบไหน ถ้าเขาต้องการคนจบทางคอมพิวเตอร์ แต่ผู้สมัครเป็นหมอนวดเคยจับเส้นไม่เคยจับเมาส์ ใบสมัครก็คงไม่จับใจเขา
2. เขาต้องการรับคนที่กำลังทำงานในตำแหน่งอะไรไปฝึกอบรมกับเขา ข้อนี้เขาถามปัจจุบัน สิ่งที่เห็นโดยทั่วไปก็คือ คนกรมพัฒน์ จำนวนไม่น้อย ทำงานสายทั่วไป หรือแม้อาจารย์ช่างบางคนก็สอนได้หลายช่าง การเขียนใบสมัครจะต้องไม่ทำให้เขารู้สึกว่าท่านเป็น Jack of all trades, expert of none หรือ รู้แบบเป็ด แต่ควรเขียนเน้นหรือเลือกหยิบมาเขียนให้เห็นว่าลักษณะของงานประจำที่ท่านทำในปัจจุบันมีความสำคัญม๊ากมาก ยิ่งถ้าได้รับการอบรมจากเขาจะยิ่งสามารถทำงานได้ดีเพิ่มขึ้นเป็นทวีตรีคูณ พูดง่ายๆก็คือต้องโยงให้เห็นว่างานที่ท่านทำกับการอบรมที่เขาจัดขึ้นมัน match กันยังกะกิ่งทองใบหยก ถ้าเขาจะเลือกคนไปอบรม ท่านนี่แหละคนนี้ใช่เลย การที่ท่านจะเขียนยังงี้ได้ท่านต้องไปอ่านรายวิชาของเขา และเขียนให้มันดึงและดูดใจ นี่ผมไม่ได้แนะให้ท่านแต่งนิยายตอนเขียนใบสมัครนะครับ ผมเพียงแต่บอกว่า ต้องหยิบแง่มุมที่เขาสนใจจะอ่านมาเขียน ไม่ใช่หยิบเรื่องที่ท่านสนใจจะเขียนมาให้เขาอ่าน
3. ประเด็นสุดท้ายที่จะต้องเขียนเป็นเรื่องอนาคต ในสมัครของทุกประเทศจะให้กรอกว่าเมื่อจบการอบรมแล้ว ท่านจะเอาความรู้ความชำนาญที่ได้รับไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง บางประเทศถามถึงขั้นว่า ท่านจะยังคงทำงานเดิมหรือเปล่า หรือจะได้รับการ promoteให้มีตำแหน่งสูงขึ้น อันนี้ก็ต้องกรอกไปตามความเป็นจริง ปนยกยอ ปนมองโลกในแง่ดีว่า การอบรมของเขามีประโยชน์แน่ๆและมากๆ ท่านอาจจะต้องกลับไปอ่านข้อมูลที่หาไว้แล้ววิเคราะห์ว่า ใครคือคนกลุ่มแรก หรือ first priority ที่เขาจะให้ทุน เช่น เป็นผู้บริหารระดับกลาง เป็นผู้ทำงานจริงในสนาม เป็นนักวิชาการหรือเป็นใครกันแน่ ตัวท่านเองอาจจะเป็นทีเดียวได้หลายอย่าง แต่ก็ต้องเขียนให้เขาเห็นว่าท่านเป็นอย่างที่เขาต้องการด้วย

เอาละครับหลังจากที่ท่านเขียนใบสมัครได้เนื้อหาครบถ้วน สมบูรณ์ถูกต้อง และชวนหลงใหลเรียบร้อยแล้ว ยังส่งไม่ได้ครับ เพราะอาจจะตายน้ำตื้น ให้ท่านเช็คครั้งสุดท้ายว่า ใบสมัครที่เนื้อหาสมบูรณ์นี้ รูปแบบ เนี๊ยบพอหรือยัง เช่น การจัดย่อหน้า การใช้ฟอนต์ spelling ความถูกต้องของไวยากรณ์ หมึกและกระดาษที่ใช้พิมพ์ ถ้าเขามิได้บังคับให้ใช้กระดาษแบบฟอร์มของเขาท่านสามารถเอาแบบฟอร์มมาพิมพ์เองให้ดูดีขึ้นก็ทำได้ครับ

ท่านที่เคารพครับ ผมเขียนถึงบรรทัดนี้ก็ยังคงมีความรู้สึกอย่างหนึ่งเหมือนเมื่อตอนลงมือเขียนบรรทัดแรก คือ การเขียนใบสมัครเป็นภาษาอังกฤษขอรับทุนไปต่างประเทศนี้ ถึงแม้จะดูยุ่งแต่ก็ไม่ยาก เรื่องที่ยากกว่าคือสอบภาษาอังกฤษผ่านเข้าไปจนถึงรอบสุดท้าย และได้รับการเสนอจากไทก้าเป็นตัวแทนประเทศไทยส่งใบสมัครให้ประเทศเจ้าของทุนพิจารณา ขั้นตอนการสอบภาษาอังกฤษนี้ยากกว่าเยอะ ส่วนการเขียนใบสมัครเป็นภาษาอังกฤษตามแบบฟอร์มของเขา แม้จะต้องพิถีพิถันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ฉะนั้นการฟิตภาษาอังกฤษไว้เนืองๆ เพื่อติดอาวุธให้ตัวเองก่อนเข้าสนามสอบซึ่งไม่ต่างจากสนามรบ จึงเป็นการบ้านที่ควรทำทุกวัน

ผมหวังเอามากๆว่าเว็บที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ คือ http://www.intereladsd.blogspot.com
จะมีส่วนให้ท่านสอบภาษาอังกฤษผ่าน และได้บินไปอบรมที่เมืองนอก และเก็บเกี่ยวความรู้กลับมาบ้านได้สมใจนึก
InterelaDSD

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๑๓:๒๓

เมื่อท่านถูกสั่งให้เป็นล่าม

สวัสดีครับ
กรมพัฒน์ของเราทุกวันนี้โกอินเตอร์มากขึ้น มีคนต่างชาติเข้ามาติดต่อมากขึ้น ทั้งในฐานะผู้ให้และผู้รับ โดยทั่วไปเขามักจะพูดภาษาอังกฤษ และมักต้องมีล่ามเมื่อมีการประชุม การ present ข้อมูล การนำชมสถานที่หรือหรือ site visit และถ้าท่านต้องเป็นล่าม ซึ่งในพจนานุกรมแปลว่า “ผู้แปลคำพูดจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งโดยทันที” ท่านจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ทำไมต้องเตรียมตัว ถ้าพูดในแง่บวกก็ต้องบอกว่า จะได้สามาถแปลได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน สร้างความพอใจให้แก่ผู้อำนวยการที่สั่งงาน และตัวท่านที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ล่าม แต่ถ้าพูดในแง่ลบก็ต้องบอกว่า เตรียมตัวเพื่อให้แปลผิดหรือแปลตกหล่นน้อยที่สุด ผู้อำนวยการไม่หงุดหงิดและตัวท่านไม่กังวลเมื่อถูกสั่งให้เป็นล่าม

ถ้าท่านโชคดี ท่านอาจมีโอกาสเตรียมตัวมากๆ ในการเป็นล่าม แต่บางทีโชคร้ายแทบไม่มีโอกาสเตรียมตัวเลย เอาเป็นว่าถ้าท่านมีเวลาเตรียมตัวก็น่าจะทำดังต่อไปนี้

1. ศึกษาภาษาที่ต้องใช้ในการแปล
เอาเอกสารทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยที่ผู้เยือนและผู้เหย้าจะพูดมาศึกษาล่วงหน้า และนึกในใจหรือโน้ตในกระดาษว่าคำ-วลี-หรือประโยค ซึ่งอาจจะมีความหมายจำเพาะพวกนี้ อีกภาษาหนึ่งพูดว่าอย่างไร

ถ้าผู้เยือนมิได้ส่งเอกสารใดๆ มาให้เราศึกษาล่วงหน้า อาจจะอีเมลขอให้เขาส่งมาให้ เขามักจะให้ถ้าเขามีหรือเตรียมไว้แล้ว ในกรณีที่ต้องแปลสุนทรจน์หรือ speech ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ เราสามารถแปลไว้ก่อนได้เลยครับ

2. ศึกษาเรื่องที่ต้องแปล
ถ้าเราไม่มีความรู้พื้นฐาน หรือมีแต่น้อยเกินไปในเรื่องที่ต้องเป็นล่าม โอกาสที่จะแปลผิดๆ ถูกๆ ตกๆ หล่นๆ มีมากทีเดียว เพราะบ่อยครั้งที่ผู้เยือนหรือผู้อำนวยการเจ้าของบ้านพูดขาดวลีสำคัญ หรือละไว้ในฐาน(ที่ตนเองคนเดียว) เข้าใจ แต่คนฟังอีกชาติหนึ่งไม่ได้เข้าใจด้วย ล่ามก็อาจจะต้องแปลเติมเข้าไปนิดหน่อยให้รู้เรื่อง ล่ามไม่มีทางทำอย่างนี้ได้หรอกครับ ถ้าเป็นคนนอกไม่เข้าใจเรื่องที่เขาพูดมาก่อน

3. อาจต้องเตี๊ยมกับผู้พูดชาวต่างชาติ
เนื่องจากเราไม่ใช่ล่ามอาชีพ และภาษาอังกฤษอาจไม่แข็งแรง อาจต้องคุยกับเขาว่า เขาจะพูดอะไร เรียงลำดับอย่างไร เราจะแปลทีละประโยค หรือทีละย่อหน้า อาจจะขอให้เขาพูดช้านิดนึง.. บอกเขาว่าสิ่งที่เขาพูดสำคัญมาก เราจึงไม่ต้องการแปลผิดแม้แต่คำเดียว เท่าที่ผมเคยเป็นล่ามพบว่าคนต่างชาติที่มาเยือนกรมฯ มีทั้งมือเก่าและมือใหม่ ถ้าเป็นมือเก่าเขาจะรู้ว่าจะพูดอย่างไรให้ล่ามแปลง่าย แม้แต่ปรับสำเนียงของเขาไม่ให้ออกแขกหรือออกจิงโจ้มากนัก ถ้ามาจากอินเดียหรือออสเตรเลีย แต่ถ้าเป็นผู้เยือนมือใหม่ ล่ามอาจจะปวดหัวมาก ปวดหัวมากกว่า จนถึงปวดหัวมากที่สุด

4. หาเวลาคุยกันนิดหน่อยถ้ามีเวลา
นี่ผมเอาประสบการณ์ตัวเองมาพูดเพราะเคยทำผิดๆ พลาดๆ มาเยอะแล้ว การได้คุยกันบ้างทำให้เราคุ้นเคยกับ accent ของเขา ก็จะไม่รู้สึกเดินบนทางที่ทุรกันดารมากนัก เมื่อต้องเป็นล่ามตามเขา

5. เตรียม Dictionary
เตรียม Dictionary ไว้ใกล้ตัวให้สามารถหยิบใช้ได้ทันท่วงที ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่ล่ามต้องเปิด Dict. หากเป็นคำที่สำคัญ และห้ามแปลผิดเด็ดขาด ผมเคยเห็นล่ามเยอรมันในเวทีการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ หรือ WorldSkills พก Dict. ติดตัวเป็นประจำทุกครั้งที่แข่งขัน ทั้งๆ ที่เขาก็แปลคล่องมาก แต่ก็ไม่เคยขาด Dict.

มีเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังขณะทำหน้าที่ล่าม คือถ้ารู้ตัวไม่แน่ใจในคำศัพท์หรือเนื้อหาที่แปล อย่าดำน้ำแปลไปอย่างเนียนๆ หรือแปลมั่วอย่างกลมกลืน หลายครั้งที่เราอาจจะรู้ศัพท์ แต่เนื้อหาที่คุยกันมัน complicated หรือค่อนข้างซับซ้อนสับสน จนไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ เราสามารถหยุดเพื่อถามคนพูดว่าประโยคนี้คุณหมายความว่ายังไง บ่อยครั้งตัวเราในฐานะล่ามสามารถหาคำไทยมาเทียบคำอังกฤษ แล้วแปลออกไปทำนองแปลคำต่อคำ แต่พอเป็นภาษาไทยแล้วความหมายมันไปคนละทางกับที่คนพูดต้องการสื่อ การหยุดเพื่อถามไม่ถือว่าผิดครับ

ล่ามอาจจะไม่ต้องแปลทุกคำ แต่ล่ามต้องแปลเก็บใจความให้ครบ ล่ามอาจจะต้องยก ศัพท์-วลี-หรือประโยคเด่นๆ ของผู้พูดมาแปลคำต่อคำ สมุดโน้ตที่เหมาะมือจึงขาดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องเดินไป-แปลไป เช่นตอนพาชาวต่างชาติชม workshop ต่างๆ

สำหรับเพื่อนข้าราชการที่อยู่ตามกอง สถาบัน หรือศูนย์ต่างๆ ที่ถูก (ได้รับการ) มอบหมายให้เป็นล่าม ผมว่าเป็นโอกาสดีนะครับที่จะได้ทำงานนี้ การเป็นล่ามทำให้เราต้องใช้ทักษะครบเครื่องคือ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ถือว่าเป็นโอกาสทองทีเดียวครับ
InterelaDSD


เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๑๔:๕๗

แบบฟอร์มแปลเอกสารทะเบียนราษฎร์

สวัสดีครับ
ไม่ทราบว่าท่านเคยถูกไหว้วานให้แปลเอกสารของทางราชการ เช่นใบเกิด ใบเปลี่ยนชื่อ, ทะเบียนบ้าน, ใบทะเบียนสมรส, หนังสือมอบอำนาจ หรืออะไรทำนองนี้บ้างไหมครับ ผมเคยถูกวาน และก็แปลให้เขา ทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยจะแน่ใจว่ามันถูกต้องอย่างเป็นทางการหรือเปล่า, ผมพยายามหาว่า หน่วยราชการไหนบ้างนะที่มีบริการแปลแบบฟอร์มเอกสารพวกนี้ให้ฟรี ๆ, หาอยู่หลายวันทีเดียวครับ วันนี้เจอแล้ว ข้างล่างนี้ครับ http://www.mfa.go.th/web/804.php
http://www.thaichicago.net/clate/appform.html
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ควรทราบและใช้ในการแปลอยู่เสมอ

นอกจากช่วยในการแปลเอกสารราชการแล้ว แม้ท่านไม่มีธุระในการแปลเอกสารให้ใคร เพียงเข้าไปศึกษาเล่น ๆ ก็มีประโยชน์ครับ

อ่าน นสพ.-ฟังวิทยุ-ดูทีวี ทั่วโลกจากเน็ต

หนังสือพิมพ์ภาษาอังฤษในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
http://www.newspapers24.com/countries/index.html
http://www.newspapers24.com/languages/english-newspapers/index.html

จีน http://www.chinadaily.com.cn/
อินเดีย http://timesofindia.indiatimes.com/
สหรัฐฯ http://www.washingtonpost.com/
อังกฤษ http://www.independent.co.uk/
ญี่ปุ่น http://www.yomiuri.co.jp/dy/

สวัสดีครับ
มีการสำรวจความคิดเห็นคนอเมริกัน เมื่อไม่นานมานี้ เขาโหวตให้อินเตอร์เน็ตเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ถ้าเขามาถามผม ผมก็จะโหวตให้เช่นเดียวกัน ก็ไม่น่ามหัศจรรย์หรอกหรือครับ เพียงแค่คุณนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เน็ต คุณก็สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ และดูทีวีภาคภาษาอังกฤษของทุกประเทศในโลกนี้ ถ้าไม่เชื่อก็เชิญเข้าไปที่เว็บข้างล่างนี้ เพื่อพิสูจน์ด้วยตนเองได้เลยครับ
1. อ่านหนังสือพิมพ์ของทุกประเทศทั่วโลก
http://www.thepaperboy.com/
http://www.onlinenewspapers.com/
http://www.refdesk.com/paper.html
http://www.ipl.org/div/news/
http://www.world-newspapers.com/

2. ฟังวิทยุของทุกประเทศทั่วโลก
http://www.radio-locator.com/
http://www.live-radio.net/worldwide.shtml
http://broadcast-live.com/

3. ดูทีวีของทุกประเทศทั่วโลก
http://wwitv.com/television/index.html
http://www.webtvlist.com/
http://www.internettvlist.com/

หมายเหตุ :
1. ถ้าเน็ตของท่านมิใช่ high speed อาจมีปัญหาในการฟังวิทยุและดูทีวี ส่วนเว็บจากประเทศต้นทางรู้สึกว่าจากประเทศสหรัฐอเมริการับฟังและชมได้สะดวกที่สุด
2. ถ้าชอบใจหนังสือพิมพ์ฉบับไหน วิทยุและทีวีช่องใด ทำ Favorite ไว้เลยครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาหาอีก
InterelaDSD

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๑๐:๒๑

เรียนภาษา... ผ่านเพลง

สวัสดีครับ
จนถึงบัดนี้ผมยังไม่ได้แนะนำเว็บอะไรเลยเกี่ยวกับการศึกษาภาษาอังกฤษผ่านเพลง วันนี้ได้โอกาสดีจึงขอเสนอเลยครับ

1. ที่เว็บนี้ คลิกที่เพลงสากล เพลงไทย บทกลอน ที่คอลัมน์ซ้ายมือ มีเพลงให้ฟัง เนื้อเพลงให้อ่าน หลายเพลงมีคำแปลให้ด้วย(แปลถูกหรือผิดดูเอาเองครับ)
http://www.educatepark.com/english/index.php

2. เรียนภาษาอังกฤษจากเพลง มีคำแปลให้อ่านด้วย
http://www.geocities.com/is42c108/indexT.html
http://www.geocities.com/is42c108/lyricT01.html

3. http://www.ethaimusic.com/ เว็บนี้แปลเพลงไทยเป็นภาษาอังกฤษครับ, คลิกเลือกตรง “เลือกเพลงที่ต้องการ”… นั่นแหละครับ

4. เว็บนี้มีเพลงให้ฟัง – อ่าน มีแบบฝึกหัดให้ทำ & เฉลย (ที่ด้านล่าง ให้คลิกที่ Other singers and songs) คุณภาพค่อนข้างดีครับ เพราะเป็นของ BBC
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/music/singersong/index.shtml

5. มีเนื้อเพลงให้เราศึกษาและหาความสำราญ
http://www.lyricsbox.com/index.html
http://www.absolutelyric.com/

6. เพลงชาติประเทศต่าง ๆ (ได้รู้ความหมายเพลงชาติของเขาเป็นเรื่องน่าสนใจนะครับ) http://www.geocities.com/olusegunyayi/ อ่านคำแปลของเพลงแต่ละชาติ เป็นภาษาอังกฤษ http://www.national-anthems.net/ ฟังเพลงชาติของประเทศต่าง ๆ

7. http://www.bkkonline.com/song/
(คลิกชื่อเพลงที่คอลัมน์ซ้ายมือ และคลิก “ เพลงที่ผ่านมา” ที่บรรทัดล่าง)
(homepage นี้ดีทีเดียว น่าดูให้ทั่วๆ: http://www.bkkonline.com/ )

8. http://www.englishdaily626.com/songs.php
ถ้าจะฟังเพลงให้คลิกที่ Listening to the song ฟังเสร็จแล้วคลิก Next
(นอกจากเพลงแล้ว ในเว็บนี้อื่นๆก็น่าสนใจครับ: http://www.englishdaily626.com/ )

ส่วน 3 เว็บล่างนี้ส่วนใหญ่เป็นเพลงไทยครับ
http://radio.sanook.com/
http://www.365jukebox.com/
http://music.kapook.com/
InterelaDSD

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๒๒:๒๘

บอกศัพท์ ทุกเว็บ ทุกคำ แค่วางเมาส์ (จากไทย เป็นอังกฤษ)

สวัสดีครับ
ที่เว็บนี้ http://www.thai2english.com/
เขามีบริการ แปลศัพท์จากภาษาไทยเป็นอังกฤษ จะแปลทีละคำ ทีละหลายย่อหน้า หรือทั้งหน้าเว็บก็ได้
1. ถ้าต้องการให้แปลศัพท์เป็นคำ ๆ จากไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทย ก็เติมคำศัพท์ให้ข้อความนี้ “ Enter a Thai or English word below to look it up in the dictionary” ซึ่งอยู่ที่มุมขวาบน

2. ถ้าท่านมีเอกสาร Word ภาษาไทย และต้องการแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ขี้เกียจเปิดศัพท์ทีละคำ ๆ จากดิก ท่านก็ copy ข้อความทั้งหมดนั้น เอามา paste ใต้ข้อความนี้ “To get started, type or copy-and-paste Thai text into the box below” แล้วคลิก Submit ด้านล่างซ้ายมือ รอนิดนึง เพียงเท่านี้ เขาก็แปลให้ทุกคำเพียงแค่เอาเมาส์ไปวางที่คำนั้น

3. แต่ถ้าท่านต้องการแปลทั้งหน้าเว็บ ก็แค่ copy URL address ของหน้าเว็บนั้น มา paste ในช่องใต้คำว่า “Alternatively, you can enter the URL of a Thai webpage instead” เช่น ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คือ http://www.thairath.co.th/ แล้วคลิก Submit ด้านล่างขวามือ เพียงเท่านี้ เขาก็แปลให้ทุกคำในหน้าเว็บนี้ เพียงแค่เอาเมาส์ไปวางที่คำนั้น

ถือได้ว่าเว็บนี้ เป็น “ตัวช่วย” ในการเรียนภาษาอังกฤษได้เลยครับ
InterelaDSD

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๒๑:๕๐

วิทยุ.. ทีวี.. เรียนภาษาฟรี มีทุกช่อง

สวัสดีครับ
ทีวีหลายช่องมีรายการสอนภาษาอังกฤษดีๆ ให้เราชม เนื้อหาของรายการมีประโยชน์ ไม่ซ้ำซาก และ Style การนำเสนอน่าสนใจ ชวนติดตาม เพราะคนจัดรายการต้องการดึงดูดทั้งคนชมและ Sponsor

ทางฝ่ายประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้รวบรวมรายการทีวีของทุกช่องไว้ข้างล่างนี้ หลายรายการออกอากาศในช่วงเย็น บางท่านอาจต้องจัดการตัวเองเพื่อให้สามารถไปนั่งชมรายการดีๆ เหล่านี้ได้

XXX สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3
English on Tour
จันทร์-ศุกร์ / 18.15 น. - 18.20 น.

หมู่บ้าน อิงลิชมินิช
จันทร์-ศุกร์ / 19.45 น. - 19.50 น.

XXX สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7
1 Minute English
จันทร์-พุธ / 18.15 น. - 18.20 น.

XXX สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9
ฟุตฟิตฟอไฟ
จันทร์-ศุกร์ / 17.55 น. - 18.00 น.

XXX สถานีโทรทัศน์ ช่อง 11
Morning Talk
จันทร์-ศุกร์ / 08.30 น. - 09.00 น.

Newsline
จันทร์-ศุกร์ / 21.30 น. - 22.00 น.

Thai-Aus Talk
อาทิตย์ / 08.00 น. - 08.30 น.

XXX สถานีโทรทัศน์ iTV
Morning Cartoon
ศุกร์ / 06.00 น. - 06.15 น.

XXX UBC ช่อง 81-95
Dltv (สถานีโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม)
ทุกวัน / ศึกษารายละเอียดตารางออกอากาศได้จาก http://www.dltv.th.org

XXX UBC ช่อง 96
เคเบิ้ลท้องถิ่นทั่วประเทศ

XXX ETV (สถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษา กศน.)
ทุกวัน / ศึกษารายละเอียดตารางออกอากาศได้จาก http://www.etvthai.tv/timetable_list.php

XXX รายการวิทยุเพื่อฝึกทักษะฟังข่าวภาษาอังกฤษ

สถานีวิทยุ
FM 88.0 คลื่นวิทยุแห่งประเทศไทย
FM 95.5 Vergin Hitz
FM 107.0 107 Metropolis
ทุกวัน
07.00 น. - 07.30 น.
19.00 น. - 19.30 น.
และทุกต้นชั่วโมง

สถานีวิทยุ
FM 92.0 สถานีวิทยุศึกษา กศน.
(ถ่ายทอดเสียงรายการจาก BBC กรุงลอนดอน)
ทุกวัน
06.30 น. - 07.00 น.
19.00 น. - 20.00 น.

เล่นเกมคำศัพท์กับ Picture Dictionary

สวัสดีครับ
ที่เว็บนี้ http://www.pdictionary.com/ มีกิจกรรมช่วยเพิ่มคำศัพท์ เล่นสนุก ช่วยให้จำศัพท์ได้เร็ว และจำได้นาน

XX ที่คอลัมน์ซ้ายมือใต้คำว่า Activities มีกิจกรรมให้เราเล่นกับภาพเพื่อพัฒนาศัพท์ 5 กิจกรรม คือ
1.Flashcards: http://www.pdictionary.com/english/flashcards.php
เมื่อวางเมาส์บนภาพ จะมีศัพท์โชว์ขึ้นมา ฉะนั้นก่อนวางเมาส์ น่าจะเดาก่อนว่าภาพนี้ ศัพท์ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร

2.Fill-in-the-blanks: http://www.pdictionary.com/english/fill-in-the-blank.php
ในแต่ละภาพ ให้เราเติมตัวอักษร 1 ตัว ที่หายไป เสร็จแล้วคลิกที่ Test Your Answers เพื่อตรวจคะแนน และคลิกที่ Show Correct Answers เพื่อดูเฉลย

3.Word Scramble: http://www.pdictionary.com/english/jumble.php
ท่านต้องเรียงตัวอักษรที่เขาให้ไว้ใต้ภาพ ให้เป็นคำศัพท์ที่ถูกต้อง

4.Stinky Spelling: http://www.pdictionary.com/english/stinky_spelling.php
เอาตัวอักษรที่เขาให้ไว้ ซึ่งมีผิดบ้างถูกบ้าง พิมพ์ลงไปให้ถูกต้อง

5.StraightRecall: http://www.pdictionary.com/english/straight_recall.php
พิมพ์คำที่สะกดถูกต้องลงไป ตามถาพที่โชว์

ที่ด้านล่างของทุกกิจกรรม ท่านสามารถคลิกเพื่อกำหนดลักษณะคำศัพท์ที่จะเล่น และคลิก “More……….” เพื่อเล่นเกมส์ใหม่

นอกจากกิจกรรมข้างต้นแล้ว เว็บนี้ยังมีอื่น ๆ ให้ดูอีก
XX ที่แถบบนตามขวาง ใต้คำว่า Browse by letter มีตัวอักษร a, b, c, d…… ถึง z ให้ท่านคลิกหาคำศัพท์ที่ต้องการ
XX คลิกแต่ละครั้ง จะแสดง 6 รูป( 6 ภาพ), ถ้าจะดูอีก 6 รูปถัดไป ก็คลิก next ไปเรื่อย ๆ
XX และท่านสามารถ พิมพ์คำศัพท์ที่ต้องการดูภาพลงไปใต้ช่อง search ที่คอลัมน์ซ้ายมือ (แล้วคลิก Go ! , ถ้า database ของเว็บไม่มีศัพท์ตัวนั้น เครื่องจะแสดงศัพท์อื่นที่เขียนใกล้เคียงกัน
InterelaDSD

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๒๒:๐๗

อ่าน “ภาพข่าว”

สวัสดีครับ
วันนี้ผมขอแนะนำเว็บ “ภาพข่าว” ครับ

ผมเลือกเว็บประเภทนี้มาแนะนำก็เพราะว่า ได้ทั้งอ่านข่าวและฝึกอ่านภาษาอังกฤษ ที่ไม่ยาวเกินไป ท่านสามารถอ่านจบก่อนเบื่อ นอกจากนี้ ภาพที่เห็นจะช่วยให้เราเดาคำศัพท์หรือสำนวนได้ง่ายขึ้น เรียกว่าได้ฝึกอ่านอย่างมี “ตัวช่วย”

เว็บที่ 1: เลือกดูภาพ/อ่านข่าว ตามเดือน/วัน ที่ต้องการ (ข่าวไทย)
http://www.thaiphotoblogs.com/

เว็บที่ 2: ภาพข่าว หนังสือพิมพ์ Bangkok Post
http://www.axilltv.com/morephotos.php

เว็บที่ 3: ภาพข่าวหนังสือพิมพ์ The Nation
http://www.nationmultimedia.com/specials/nationphoto/

เว็บที่ 4 : Photos and Slideshows on Yahoo News
http://news.yahoo.com/photos
คลิกเลือกที่ View Slideshows: Select Category มีหลายประเภทให้เลือก

เว็บที่ 5: เว็บของสำนักข่าว BBC
http://news.bbc.co.uk/1/hi/in_pictures/default.stm
เขาให้เราอ่านข่าวสั้น ๆ พร้อมมีภาพถ่ายเป็นชุดให้ดู (ดูแล้วคลิก next ไปเรื่อย ๆ ) มีสารพัดเรื่องทีเดียว น่าสนใจมากครับ นอกจากมีภาพแล้ว ยังมี Audio Slideshows อีกด้วย
ท่านเคยสังเกตไหมครับว่า การดูภาพข่าวนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการดูภาพยนตร์ข่าว เพราะภาพเป็นสิ่งที่นิ่ง เราจึงมีเวลาพินิจพิเคราะห์สิ่งที่นิ่งนั้นได้นานกว่าภาพยนตร์เคลื่อนไหว ภาพเคลื่อนไหวนั้นแม้จะน่าตื่นตาตื่นใจ แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่กับใจ มันมาไวแต่ก็ไปไว เหมือนภาพที่เคลื่อนไหวนั่นแหละครับ

เว็บที่ 6: ของนิตยสาร Time เป็นภาพชุด พร้อมเนื้อข่าวสั้น ๆ ให้เราอ่าน น่าสนใจมาก ๆ อีกเช่นกัน การอ่านข่าวประกอบภาพสีนี้ ไม่แห้งแล้งเหมือนอ่านเนื้อข่าวเพียงอย่างเดียว (เว็บนี้อาจใช้เวลาดาวน์โหลดนานหน่อย)
http://www.time.com/time/photoessays/

เว็บที่ 7: Multimedia & Photos – New York Times
ส่วนใหญ่เป็นภาพ/เรื่อง/audio ของสหรัฐฯ แต่หลายเรื่องก็น่าสนใจสำหรับคนไทย
http://www.nytimes.com/pages/multimedia/

เว็บที่ 8: a photo a day
http://www.aphotoaday.org/

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๒๑:๔๑

ฟิตอังกฤษ… ฟิตอย่างไร?

สวัสดีครับ
ถ้าเราไม่มีโอกาสไปเรียนหรืออยู่เมืองนอก ไม่มีสามีหรือภรรยาเป็นฝรั่ง ไม่มีงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ ไม่มีเวลาว่างเกินวันละชั่วโมง สมัยเรียนหนังสือก็ไม่ได้เลือกภาษาอังกฤษเป็นวิชาเอก และชาติก่อนก็ไม่ได้เกิดเป็นฝรั่ง เราจะฟิตภาษาอังกฤษอย่างไรดี

ผมใคร่ขอเสนอความคิดเห็น จากประสบการณ์ของตัวเอง ดังนี้ครับ.....

1. บอกใจให้รักภาษาอังกฤษ ถ้าเรารักเราจะเรียนรู้ได้เร็ว จำได้นาน และมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้คนรัก (คือภาษาอังกฤษ) คุณที่อายุพ้นวัยรุ่นคงพบว่า คุณจำเพลงสมัยก่อนที่เดี๋ยวนี้คนเอามาร้องใหม่ได้หลายต่อหลายเพลง เพียงแค่เขาขึ้นต้นคุณก็ร้องต่อได้แล้ว ทำไมคุณจำได้? คุณจำได้เพราะว่า คุณรักและมีความสุขที่ได้ร้องเพลงนั้น แต่เพลงที่คุณไม่ชอบ คุณไม่อยากจำและก็จำไม่ได้ ผมว่าภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกัน เราคงต้องรักมัน และต้องหาให้พบแง่งามของความรัก ภาษาอังกฤษมีหลายแง่ เราก็หาสักแง่หนึ่งที่เราสามารถรักมันได้เช่น ศึกษาไว้ดูหนัง ฟังเพลง ฟังข่าว คุยกับฝรั่ง อ่านเรื่องราวแปลก ๆ หรือเอาไว้สอบกรมวิเทศฯ ชิงทุนไปอบรมเมืองนอกก็ได้ครับ

2. มีเวลาให้กับเขาบ้าง ตอนผมเริ่มเรียนปี 1 ผมบอกตัวเองว่าก่อนขึ้นปี 2 เอ็งจะต้องอ่าน Bangkok Post ให้รู้เรื่องเหมือนอ่านไทยรัฐ ฉะนั้น (แทบ) ทุกวัน เมื่อกลับถึงบ้านผมจะนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ เอาเชือกผูกเอวตัวเองไว้กับพนักเก้าอี้ และอ่านให้จบอย่างน้อย 1 หน้าก่อนลุกไปไหน ถ้าจะลุกก่อนจบก็เอาเก้าอี้ไปด้วย ทำอย่างนี้จนเรียนจบปี 1 ผลปรากฏว่าก็ยังไม่สามารถบันดาลให้ Bangkok Post กลายเป็นไทยรัฐไปได้ แต่… มันอ่านรู้เรื่องขึ้นเยอะครับ เพราะก่อนหน้านี้ Bangkok Post สำหรับผมมันยากพอ ๆ กับหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า ยังไง ยังงั้นเลยครับ

3. ฝึกฟัง-พูด-อ่าน-เขียนไปพร้อม ๆ กัน จากน้อยไปมาก ง่ายไปยาก
ฟัง : ก็ดูหนังฝรั่งหรือฟังเสียงในฟิล์ม ฟังข่าววิทยุประเทศไทยภาคภาษาอังกฤษ ฟังเทป ฟังเพลงเอาเนื้อ (ไม่ใช่เอาซึ้งหรือเอามันอย่างเดียว) ดูวีดีโอสอนภาษาอังกฤษ ฟังข่าวภาษาอังกฤษจากเน็ต ถ้าใครรับเคเบิ้ลทีวีที่บ้านก็ยิ่งมีโอกาสฝึกมาก
พูด : อาจจะต้องไปเรียนคอร์สสนทนาภาษาอังกฤษเป็นครั้งคราวตามโรงเรียนสอนภาษาต่างๆ ตามปกติ 1 คอร์สจะประมาณ 30 ชั่วโมง ค่าเรียน 3,000 กว่าบาท ถ้าใครบ้านอยู่แถวถนนข้าวสาร บางลำพู สุขุมวิท หรือย่านที่ฝรั่งอยู่กันเยอะๆ ลองจงใจเดินไปหาเรื่องทักทายพูดคุยกับฝรั่งก็จะมีประโยชน์ไม่น้อย ไม่เข้าถ้ำเสือหรือจะได้ลูกเสือ อีกอย่างหนึ่งลองหาภาษาอังกฤษง่ายๆ อ่านอัดเทป แล้วเปิดให้เพื่อนที่สนิทฟัง ถ้าเพื่อนหัวเราะเอ๊กอ๊ากและชมเราว่าพูดภาษาเขมรได้ดีมาก ก็ควรเพิ่งผลีผลามดีใจนะครับ
อ่าน : ผมขอแนะนำอย่างนี้ครับ หนังสือ reading อ่านนอกเวลา สมัยเราอยู่ชั้นมัธยมนั่นแหละครับ ลองเอามาอ่านอีกครั้ง หรือจะอ่านหนังสือพิมพ์ง่ายๆ เช่น Student Weekly หรือ หาอ่านจากเน็ตก็มีให้เลือกเยอะแยะ ถ้าอินทรีย์แก่กล้าก็ขยับขึ้นไปอ่าน Bangkok Post หรือ The Nation ข้อที่ขอบอกก็คือ ถ้าอ่านน้อยเกินไปจะไม่ได้อะไร ถ้าอ่านมากเกินไปจะขยันอยู่ได้ไม่กี่วัน ถ้าอ่านที่ง่ายเกินไปจะไม่ได้พัฒนาตัวเองเท่าที่ควร ถ้าอ่านที่ยากเกินไปจะรู้สึกเบื่อ และท้อ และถอย ต้องหาจุดพอดีเอาเองครับ
เขียน : ถ้าไม่มีผู้รู้หรือฝรั่งคอยตรวจสิ่งที่เราเขียน อาจต้องใช้วิธีหาคู่มือการเขียนภาษาอังกฤษที่มีแบบฝึกหัดและเฉลยพร้อมเสร็จมาศึกษาด้วยตัวเอง ถ้ามีเวลาจะไปเรียนคอร์ส writing ที่โรงเรียนสอนภาษาก็ดีครับผมอยาก

พูดอย่างนี้ครับว่า ถ้าคุณต้องการพูดเก่ง :
X คุณต้องฟังมากๆ แล้วคุณจะพูดได้ง่ายขึ้น เพราะการเรียนพูดคือการจำขี้ปากทั้งการออกเสียง และการใช้ถ้อยคำสำนวน
X คุณต้องอ่านมากๆ จะทำให้คุณรู้ศัพท์เยอะ และพูดได้หลายๆ เรื่อง รวมทั้งเรียนรู้การแต่งประโยคไปในตัว ไม่ใช่แค่ Yes, No, Hello, O.K.
X คุณต้องหัดเขียนบ้าง ถ้าปากกาของคุณผลิตถ้อยคำลงบนกระดาษได้ ก็จะเป็นการวอร์อมอัพให้ปากของคุณผลิตคำพูดออกมาเป็นเสียงได้เช่นกัน

สรุปได้ว่า ทักษะทั้ง 4 นี้ จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คุณควรฝึกไปพร้อมๆ กัน แม้ปริมาณหรือเวลาของการฝึกแต่ละทักษะจะไม่เท่ากันก็ตาม ฝึกจากน้อยไปมาก จากง่ายไปยาก จากเรื่องที่สนใจไปสู่เรื่องที่ถูกสั่งให้สนใจ

4. ท่องศัพท์ก็ต้องมีเทคนิค ถึงตอนนี้โตแล้ว พ้นวัยท่องศัพท์แล้ว แต่ผมคิดว่าถ้าเรายังรู้ศัพท์น้อยเกินไป เราก็ควรจะท่องบ้าง การวิจัยแห่งหนึ่งระบุว่า 95% ของคำศัพท์ที่ฝรั่งใช้ วนเวียนอยู่ในแวดวงไม่เกิน 14,700 คำ ปัญหาก็คือจะท่องอย่างไร จึงจะจำได้ไว และจำได้นานผมกำลังจะบอกว่าการท่องแบบอัดเทป เช่น book-หนังสือ, cat-แมว,dog-หมา และอีกเป็นสิบเป็นร้อยคำทำนองนี้ เป็นวิธีการท่องที่จำได้ช้าที่สุด และลืมได้เร็วที่สุด เพราะเป็นวิธีจำที่ดิบและน่าเบื่อเกินไป

ก่อนอื่นคุณควรจะมีสมุดจดศัพท์ที่สวยๆ และดูภูมิฐานสัก 1 เล่ม เพราะจะกระตุ้นให้คุณเห็นความสำคัญของการท่องศัพท์ คุณก็รู้ เพชรน้ำดีควรคู่กับแหวนทองคำ ไม่ใช่แหวนทองเหลือง หรือแหวนพลาสติก

ผมขอเสนอแนะวิธีการท่องสัก 2 วิธี
วิธีที่ 1 เป็นการท่องแบบคล้องจอง ผมเข้าใจว่าท่านแรกที่เสนอเทคนิคนี้ คือ อาจารย์พฤกษะศรี แห่งชมรมภาษาอังกฤษ ประเทศไทย โดยหาคำศัพท์และคำแปลภาษาอังกฤษและภาษาไทยมาผูกโยงและท่องให้คล้องจองกัน ทำให้จำง่าย เช่นSon (ซัน) บุตรชายขาย Sell (เซ็ล)Tell (เท็ล) บอกออก out (เอาท์)ลองไปหาหนังสือของท่านมาท่อง ท่านแต่งไว้จากง่ายไปยาก มีประโยชน์มากครับ ตอนทบทวนทีหลังก็ให้ปิดคอลัมน์ขวามือ แล้วนึกให้ได้ว่าศัพท์ด้านซ้ายมือตรงกับคำว่าอะไร เนื่องจากมีลักษณะคล้องจอง จึงเท่ากับบอกใบ้ให้เราเดา ถ้าทวนบ่อยๆ จะจำได้ง่ายและจำได้นาน ผมขอแนะนำอย่างรุนแรงให้คุณไปซื้อหนังสือ”ศัพท์คำพ้อง อังกฤษ-ไทย” ของ อ.พฤกษะศรี มาอ่าน –ท่อง-ทบทวน ครับ

วิธีที่ 2 เป็นวิธีที่ผมใช้เอง ทำง่าย ๆ ดังนี้ครับ ในสมุดจดศัพท์ของคุณ แต่ละหน้าให้คุณตีเส้นเป็น 5 คอลัมน์ ดังนี้ ครับ
คอลัมน์ที่ 1- คือ ลำดับที่ของคำศัพท์
คอลัมน์ที่ 2 - คำอ่าน เช่น ดิพาท
คอลัมน์ที่ 3 - คำศัพท์ เช่น depart
คอลัมน์ที่ 4 - ประโยคตัวอย่าง เช่น I said good-bye and departed.
คอลัมน์ที่ 5 - ความหมายของคำศัพท์ เช่น จากไป, ออกจาก

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่อคุณท่องศัพท์และกลับมาทบทวนในคราวหลัง ให้คุณหากระดาษปิดและเปิดคอลัมน์มาทางขวาทีละคอลัมน์ หลังจากที่เดาแล้ว เช่น ตามตัวอย่าง ศัพท์คำที่ 1 “ดิพาท” คุณเห็นแล้วให้ออกเสียง แล้วนึกว่ามันเขียนว่าอย่างไร สะกดออกมาดังๆ หรือเขียนลงบนกระดาษก็ได้ แล้วเปิดดูว่าสะกดถูกไหม แล้วนึกต่อไปว่าคำนี้หมายความว่าอย่างไร ถ้านึกไม่ออกก็ลองเปิดอ่านประโยคตัวอย่าง แล้วลองเดาอีกครั้งว่าศัพท์คำนี้แปลว่าอะไรถึงขั้นนี้ถ้ายังนึกความหมายไม่ออก ก็เปิดดูความหมายภาษาไทยในคอลัมน์สุดท้าย

ด้วยวิธีเช่นนี้ จะช่วยให้คุณได้ฝึก
1. การออกเสียง
2. การสะกดคำ
3. การเดาความหมายจากประโยค และ
4. ได้เห็นการใช้คำศัพท์นี้ในการแต่งประโยคซึ่งคุณสามารถจำเอาไปแต่งเองได้คุณอาจจะถามว่าประโยคตัวอย่างเหล่านี้เอามาจากไหน ตอบได้ว่า1. คุณอาจจะลอกมาจากเรื่องที่คุณอ่าน และ2. จากดิกชันนารี อังกฤษ-อังกฤษ ที่ผมแนะนำไปแล้วเมื่อวันก่อน ที่ลิงค์นี้ครับhttp://intereladsd2.blogspot.com/2007/01/17.html

คุณเหนื่อยหรือยังครับ การเตรียมคำศัพท์เพื่อ จด-ท่อง-ทบทวน เช่นนี้ ต้องอาศัยความตั้งใจมาก ผมแนะนำว่าควรทำไม่เกินวันละ 3-5 คำ ถ้าคุณโหมมากในตอนแรก คุณจะหักในตอนหลัง เพราะฉะนั้นอย่าหักโหม ผมเป็นห่วงครับ

5. ฝึกออกเสียงศัพท์แต่ละตัวให้ถูกต้องที่สุด เท่าที่จะทำได้ และอย่างมั่นใจ แม้เป็นการยากมากๆ หรือเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะออกเสียงได้เหมือนเจ้าของภาษา แต่เราควรพยายามฝึกให้สามารถออกเสียงให้เขาฟังเราพูดรู้เรื่อง ประเด็นของผมก็คือ ถ้าเราไม่มั่นใจในการออกเสียง เรามีแนวโน้มที่จะไม่ใช้ศัพท์ตัวนั้นในการพูดจา และเรามักจะจำศัพท์ตัวนั้นไม่ค่อยได้ ส่วนเทคนิคในการออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกนั้น คำแนะนำจากผู้รู้และกาฝึกฝนต่อเอาเองเป็นเรื่องจำเป็นครับ

ผมอยากจะจบท้ายว่า ถ้าเรารักภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษจะรักเรา แต่ถ้าเราไม่รักมัน มันก็คงไม่รักเรา แต่จะไปรักคนอื่นที่รักมัน คำพูดเช่นนี้อาจดูเว่อไปสักเล็กน้อย แต่ก็เป็นความจริงแท้แน่นอนครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๑๖:๕๘

ดาวน์โหลดดิกฟรีลงเครื่องไว้ใช้งาน

สวัสดีครับ
ผมได้แนะนำเว็บที่สามารถเข้าไปใช้ดิกชันนารีได้ฟรีเวลาต่อเน็ต online ที่ลิงค์นี้ http://intereladsd.blogspot.com/2006/12/blog-post_25.html

แต่ถ้าท่านไม่อยากยุ่งยากต้องต่อเน็ตทุกครั้งเวลาจะใช้ดิก ทำได้ครับ ก็ไปดาวน์โหลดดิกจากเน็ตมาติดตั้งไว้ในเครื่อง (เป็น freeware ) และสามารถใช้ได้ฟรีตลอดเวลาแบบ offline โดยไม่ต้องต่อเน็ต

บางท่านอาจพบปัญหาบางประการในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งของ 3 ขั้นตอนนี้ คือ 1.การดาวน์โหลด 2.การติดตั้ง หรือ3.การใช้งาน ขอให้พยายามสักนิดนะครับ เพราะถ้าผ่านพ้นไปได้ก็จะได้ดิกฟรีมาใช้งานได้สบายๆ แต่ถ้าติดขัดจริงๆก็โทรถามไปที่ฝ่ายประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ กพร.ก็ได้ครับ

เชิญดาวน์โหลดได้เลยครับ
ประเภท ดิกชันนารี อังกฤษ – ไทย
1. Dict Hope [ขนาด 9.70 MB]
หน้าตา: http://www.thaiware.com/main/info.php?id=1737
ดาวน์โหลด: http://www.thaiware.com/main/download.php?id=1737&mirror=0

2. จ๊ะเอ๋ดิกชั่นนารี (Ja-a Dictionary) [ขนาด 6.74 MB]
หน้าตา: http://www.thaiware.com/main/info.php?id=2026
ดาวน์โหลด: http://www.thaiware.com/main/download.php?id=2026&mirror=1

3. HighLight Dictionary [ขนาด 6.26 MB]
หน้าตา: http://www.thaiware.com/main/info.php?id=3342
ดาวน์โหลด: http://www.thaiware.com/main/download.php?id=3342&mirror=0
หรือ http://www.thaiware.com/main/download.php?id=3342&mirror=1

4. Loy Dictionary [ขนาด 25.7 MB]
หน้าตา: http://www.thaiware.com/main/info.php?id=5229
ดาวน์โหลด: http://www.thaiware.com/main/download.php?id=5229&mirror=0

5. IT-Cat Talking Dictionary ออกเสียงคำศัพท์ได้ด้วย [ขนาด 16.0 MB]
หน้าตา: http://www.thaiware.com/main/info.php?id=7510
ดาวน์โหลด: http://www.thaiware.com/main/download.php?id=7510&mirror=0
หรือ http://www.thaiware.com/main/download.php?id=7510&mirror=1

6. e-Dic [ขนาด 9.32 MB]
หน้าตา: http://www.thaiware.com/main/info.php?id=2242
ดาวน์โหลด: http://www.thaiware.com/main/download.php?id=2242&mirror=0

7 LEXiTRON ดิกชันนารี อังกฤษ – ไทย & ไทย - อังกฤษ [ขนาด 20.7 MB หรือ 6.45MB ถ้าในเครื่อง ติดตั้ง Java Runtime Environment 1.5 ไว้แล้ว ]
หน้าตา: http://lexitron.nectec.or.th/ จะใช้ online โดยไม่ดาวน์โหลดก็ได้
ลงทะเบียนให้ครบขั้นตอนที่นี่ก่อน: http://lexitron.nectec.or.th/regisuser.php
หลังจากนี้จึง Log In โดยกรอก username และ Password (ที่เปลี่ยนใหม่) เพื่อดาวน์โหลดที่นี่ http://lexitron.nectec.or.th/

ประเภท ดิกชันนารี อังกฤษ – อังกฤษ
1. WordWeb 5 เป็นดิกอังกฤษ – อังกฤษ ใช้ฟรีที่ดีที่สุด [ขนาดประมาณ7 MB]
ดาวน์โหลด: Download Now

2. Merriam Webster´s Concise Dictionary 2.1 [ขนาด 1.59 MB]
ดาวน์โหลด: http://tinyurl.com/jrgno

3. TheSage´s English Dictionary and Thesaurus 1.1.2 [ขนาด 8.06 MB]
หน้าตา: http://www.tucows.com/screenshot/412035/1476658
ดาวน์โหลด: http://www.tucows.com/preview/412035
หรือ http://www.snapfiles.com/get/thesage.html

พิพัฒน์

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๒๒:๕๕

เว็บนี้มีทุกอย่าง สำหรับคนรักอังกฤษ

สวัสดีครับ
ผมบังเอิญไปเจอเว็บของ “ศูนย์พัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ” หรือ English Language Development Center สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ คำขวัญที่ Homepage ของเขาเขียนไว้ว่า “พัฒนาบุคลากรของชาติ ให้สามารถใช้ภาษาอังกฤษ นำพาประเทศไทย สู่การแข่งขันในเวทีโลก” ไปที่นี่ครับ: http://tinyurl.com/yehko8

ผมเข้าไปสำรวจแล้ว ก็พบว่าเว็บนี้ดีจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
1. แบบทดสอบภาษาอังกฤษ เหมาะที่จะใช้ทดสอบตนเอง ไม่ว่าจะตอนนี้หรือก่อนเดินทางไปสอบ แบ่งเป็นระดับ ง่าย – ปานกลาง – ยาก มีทั้งเรื่อง ฟัง อ่าน พูด เขียน เกม ใครที่กำลังจะไปสอบชิงทุน พลาดลิงค์นี้ไม่ได้เด็ดขาด
http://www.eldc.go.th/eexam2/proficiency.htm

2. เรียนภาษาอังกฤษจากภาพ / ภาพยนตร์การ์ตูน เกี่ยวกับ Tourism
http://www.eldc.go.th/etoons/archive.jsp?cat=tour

3. เกมภาษาอังกฤษ สนุก เพิ่มทักษะ มีให้เลือกเล่นหลายอย่าง
http://www.eldc.go.th/FlashGame1/page/index.jsp

4. เว็บเรียนภาษาอังกฤษ เขาไปรวบรวมเว็บที่เจ๋ง ๆ ทั้งนั้นมาให้เราศึกษา มีทุกรูปแบบให้เราเรียน เล่น ฝึก ทดสอบ
http://www.eldc.go.th/eldc_link/weblearn.jsp

5. แบบฟอร์มเอกสารธุรกิจภาษาอังกฤษ
น่าสนใจทั้งนั้นเลย เช่น แบบฟอร์มวุฒิบัตร นามบัตร จดหมาย บันทึก การเขียนสุนทรพจน์ ฯลฯ มีให้เราดาวน์โหลดไฟล์ หรือศึกษาประยุกต์ใช้
http://www.eldc.go.th/eldc_link/template.jsp

6. เว็บไซต์ ที่เกี่ยวข้อง มีประโยชน์มาก ๆ อีกเช่นกัน
http://tinyurl.com/ye7vxv
InterelaDSD

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๒๓:๔๓

บอกศัพท์ ทุกเว็บ ทุกคำ แค่วางเมาส์

สวัสดีครับ
จะดีไหมครับ ถ้าทุกครั้งที่อ่านภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจาก web หรือจากเอกสาร WORD แล้วติดศัพท์ ก็มีคนคอยบอกคำแปลให้ โดยไม่บ่น แถมเรียกให้มาช่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ทำได้ครับ! ที่เว็บนี้ครับ ชื่อลองดู Longdo http://dict.longdo.com/ เขามีบริการที่ว่านี้ฟรี ก็คือว่า......

1) สมมุติว่า เราเข้าไปเว็บไหนก็ตามที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น เว็บสำนักข่าว CNN ที่ cnn.com และอยากรู้คำแปลของศัพท์หลายตัวในเว็บนี้ ก็ให้
-copy URL คือ http://www.cnn.com/ เอาไป paste ลงในช่องว่าง ในพื้นที่สีชมพูด้านมุมบนซ้ายใต้บรรทัด”ใส่คำที่ต้องการค้นหา หรือ URL สำหรับบริการ Pop Thai”
-ที่บรรทัด "เลือกบริการ" ให้คลิกเลือก Pop Thai (URL)
-คลิก Submit, รอให้ done,

เมื่อเอาเมาส์ไปวางที่ศัพท์ตัวใดก็ตาม จะมีคำแปลแสดงทันที ซึ่งมักมีหลายความหมาย, ก็เลือกเอาแล้วกันครับว่าความหมายใดสอดคล้องกับเนื้อหามากที่สุด ตอนที่ทำอย่างนี้ ถ้าย่อให้ font มีขนาดเล็กหน่อย อาจจะอ่านได้สะดวกดีนะครับ

2) แต่ว่า ถ้าสิ่งที่อ่านเป็นเอกสาร WORD หรือเราไป copy มาจาก web หรือจากที่ไหนก็ตาม แล้วต้องการอ่านเฉพาะข้อความเหล่านี้ ไม่ใช่อ่านทั้งหน้าเว็บ ก็ให้เราไปที่เว็บ Longdo http://dict.longdo.com/ คลิกที่คำว่า “ขยายขนาดเพื่อใส่ข้อความหลายบรรทัด” แล้วก็ paste ข้อความที่เรา copy มาใส่ลงไป แล้วคลิก Submit รอให้ done เพียงเท่านี้ เว็บ Longdo ก็จะช่วยแปลศัพท์ให้ เพียงแค่เราวางเมาส์บนศัพท์เท่านั้น

3. เว็บ Longdo http://dict2003.longdo.com/ เป็นดิกชันนารีธรรมดา ๆ ก็ได้ ท่านพิมพ์ศัพท์ภาษาอังกฤษ หรือศัพท์ภาษาไทยลงไป คลิก Submit ก็จะได้คำแปลตามต้องการ

ข้อดีที่ขอบอกก็คือ หน้าที่ Longdo แสดงผลคำศัพท์นี้ ท่านสามารถ Save ไว้ได้

มี 2 เรื่อง ที่ขอเรียนให้ทราบ ป้องกันการหงุดหงิด
1) ถ้าเน็ตของท่านช้า อาจต้องรอนิดนึงกว่าคำแปลจะปรากฏ
2) มีอยู่บ้างบางคำที่ Longdo ไม่แปลให้ แต่ก็ไม่เยอะนัก

ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ส่วนตัวนิดนึงนะครับ สมัยที่ผมอายุน้อยและยังขยันเปิดดิกตอนติดศัพท์ ผมมักเดาในใจก่อนว่าไอ้ศัพท์ที่ผมกำลังเปิดนี่มันน่าจะแปลว่าอะไร ทำอย่างนี้บ่อยๆ ก็เริ่มเห็นลู่ทางว่า ที่ครูสอนว่า ให้เดาความหมายจากข้อความแวดล้อมนั้น เดากันยังไง ระยะหลังๆ นี้ตอนอ่านหนังสือแล้วติดศัพท์ ก็ไม่ค่อยได้เปิดดิกแล้ว เพราะเริ่มแก่และขี้เกียจ โชคดีที่ฝึกเดามานานพอควรเลยพอกล้อมแกล้มอ่านรู้เรื่องก็เลยขออนุญาตแนะว่า ก่อนที่จะเอาเมาส์ไปวางบนศัพท์ ลองเดาความหมายก่อนก็ดีนะครับ

พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com

เขียนโดย pipat - blogger ที่ ๑๕:๐๘

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ฝึกสนทนากับฝรั่ง ฟรี !

สวัสดีครับ
ท่านไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปเรียน conversation หรือจ้างครูฝรั่งมาสอนส่วนตัว เพราะที่เว็บนี้
http://www.eslgold.com/speaking/phrases.html
จะมีครูฝรั่งนั่งอยู่เพื่อสอนบทสนทนาให้แก่ท่าน ฟรี ๆ !
โดยครูฝรั่งจะออกเสียงประโยคหรือวลีที่ใช้ในการสนทนา ซึ่งมีกว่า 80 สถานการณ์(บท) แบ่งจากง่ายไปหายาก

เมื่อท่านคลิกเข้าไปในแต่ละบท ท่านจะพบ
1. script ของบทที่ใช้พูด ท่านอาจจะอ่านเพื่อใช้เข้าใจ script นี้สัก 1 เที่ยวก่อนก็ได้
2. เหนือ script มีคำว่า ‘Click for Audio’ ให้ท่านคลิก(ซ้าย)ตรงนี้เพื่อฟังเสียง, ซึ่งเขาจะพูด 2 เที่ยว, เที่ยวแรกพูดด้วยความเร็วปกติ, เที่ยวที่ 2 พูดช้า และเว้นว่างเพื่อให้ท่านฝึกพูดตาม
ในตอนแรกที่ยังไม่ค่อยคล่อง ท่านจะพูดพร้อมดู script ก็ได้, พอคล่องแล้วก็ไม่ต้องดู script จะฝึกพูด-ฝึกฟัง สักกี่เที่ยวก็ได้ไม่มีใครว่า

มีอย่างหนึ่งครับที่อยากแนะ ถ้าเน็ตของท่านช้า ให้ท่าน 1.คลิกขวาที่ ‘Click for Audio’ 2.คลิก ‘Save Target As…’ หรือ ‘บันทึกเป้าหมายเป็น’ 3.คลิก save หรือ ‘บันทึก’ ไว้ในเครื่อง โดยทำ Folder ไว้เฉพาะก็ดี, โดย save ทั้ง script และไฟล์เสียงไว้ด้วยกัน, หากตอนหลัง ท่านจะฝึกฟัง-ฝึกพูด-ฝึกอ่าน บทสนทนานี้ ก็มาที่ Folder นี้ได้เลยโดยไม่ต้องต่อเน็ต

หรือถ้าท่านจะลงทุนอีกสักหน่อย โดย save ทั้งเสียง และ ข้อความ ไว้ทั้ง 80 บท (ทำเป็น 80 Folder) ท่านก็จะมีบทเรียนสำหรับฝึกการสนทนาที่สมบูรณ์ 1 ชุด, จะ burn ใส่แผ่น CD แจกเพื่อน หรือให้เพื่อนเอาไปลงเครื่องคอมฯ ของเขาก็น่ารักดี วิทยาทานครั้งนี้อาจจะส่งผลให้ท่านมีแฟนเป็นฝรั่งถ้าท่านตั้งใจอธิษฐานก็เป็นไปได้นะครับ
InterelaDSD

เรียงคำได้... ก็พูดได้

สวัสดีครับ
เคยรู้สึกอย่างนี้บ้างไหมครับ เห็นคนอื่นพูดภาษาอังกฤษ ดูมันง่ายจัง เราฟังก็เข้าใจ แต่พอถึงคราวที่จะต้องพูดเอง กลับไม่รู้จะเรียงศัพท์ไว้หน้า – หลังยังไงดี เลยกลายเป็นว่า บางครั้งมีโอกาสก็ไม่ได้พูด นาน ๆ เข้าก็เลยไม่มีโอกาสพูด เพราะโอกาสวิ่งไปหาคนที่พูดได้ คนที่พูดได้-ก็เลยได้พูด, คนที่ไม่ได้พูด-ไม่ยอมพูด-ก็เลยพูดไม่ได้-ก็เลยไม่ได้พูด.

เอาอย่างนี้มั้ยครับ เรามาลองนับ 1.. 2.. 3... กันใหม่ นับไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึง 100... เองแหละ

ที่เว็บนี้ http://a4esl.org/q/j/ck/wo-01.html และ http://a4esl.org/q/j/ck/wo-02.html
เขามีคำง่าย ๆ ให้เราฝึกเรียงเป็นประโยค โดยให้เราคลิกเครื่องหมายคำถามหน้าแต่ละคำไปตามลำดับ/หรือจะพิมพ์ก็ได้ เพื่อสร้างประโยคที่ถูกต้อง, พอคลิก/หรือพิมพ์ครบทุกคำแล้ว (อย่าลืมคลิกจุด full stop . นะครับ) ก็คลิก Check Answer เพื่อดูเฉลย, ถ้าเรียง/หรือพิมพ์ถูกต้อง ก็จะมีกลุ่มคำอื่นมาให้เราเรียงเป็นประโยคต่อไป, ถ้าเรียงผิด ก็จะมีเฉลยให้ดู, และเราก็คลิก O.K.เพื่อทำข้อถัดไป
หากต้องการเล่นซ้ำอีกสักรอบ ก็ให้กด Refresh

หากเราจดจำ style การเรียงคำเพื่อสร้างประโยคตามแบบฝึกหัดในเว็บนี้ เล่นซ้ำไปซ้ำมาบ่อย ๆ พอถึงเวลาแต่งประโยคตอนพูด น่าจะง่ายขึ้นนะครับ

‘เรียนลัดไวยากรณ์จากการสนทนา’

สวัสดีครับ
ผมเดาเอาเองว่า หลายคนอยากฝึกพูดมากกว่าอยากเรียนแกรมมาร์ แต่หนังสือเล่มนี้ “เรียนลัดไวยากรณ์จากการสนทนา” สอนทั้ง grammar และ conversation ไปพร้อมกัน แต่ที่เด่นคือสอนแบบ ‘โตแล้วเรียนลัด’ คือ สอนแต่เนื้อ ๆ ที่จำเป็น, มีการ์ตูนประกอบกลัวคนพลิกหนี, แต่ละบทสั้น ๆ กลัวคนเบื่อก่อนอ่านจบ, และทุกบท-ทุกหัวข้อมี conversation สั้น ๆ ง่าย ๆ ให้ฝึกขยับปาก-เปล่งเสียง จะได้พูดเป็นและจำได้

เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ถ้าท่านพลิกเข้าไปแล้วขี้เกียจอ่านส่วนที่อธิบายแกรมมาร์ จะฝึกพูดเฉพาะบท conversation ก็ได้ แต่ถ้าท่านเกิดเผลอไปอ่านแกรมมาร์เข้า ก็ไม่ต้องนึกต่อว่าตัวเองหรอกครับ เพราะรู้แกรมมาร์ไว้บ้างก็จะช่วยให้คอนเวอร์ดีขึ้น
เชิญคลิกเข้าไปอ่านได้เลยครับ
http://www.nb2.go.th/~praphas/english/grammarcon/gc/grammarconversation.htm

1 วัน... 1 คำ... 1 สำนวน.

สวัสดีครับ
ใน 1 ปีมี 365 วัน ถ้าเรารู้ศัพท์ใหม่วันละแค่คำเดียว, แค่ปีกว่า ๆ เราก็จะได้ศัพท์เพิ่ม ถึง 500 คำสบาย ๆ

1 วัน 1 คำศัพท์
http://www.englishonline.net/word.html
http://www.eslmonkeys.com/student/wordoftheday.php

1 วัน 1 สำนวน
http://www.eslmonkeys.com/student/idiom_slang.php

Wikipedia Word of the Day
http://simple.wiktionary.org/wiki/Category:wotd

ศึกษาเพิ่มเติม
-http://www.google.com/Top/Reference/Dictionaries/Vocabulary_Lists/Word-a-day/
-http://dir.yahoo.com/Entertainment/X_of_the_Day__Week__etc_/X_of_the_Day/Word_of_the_Day/

ดาวน์โหลดไฟล์บทสนทนา แปลไทยเป็นอังกฤษ Test

ดาวน์โหลดไฟล์บทสนทนา แปลไทยเป็นอังกฤษ Test
สวัสดีครับ
ที่ลิงค์นี้ http://www.yindii.com/quizzes/conv/index.htm
1. จะให้วลี/ประโยค สนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นภาษาไทย
2. ท่านจะต้องคลิกเลือก ข้อ A.. B.. C.. หรือ D.. ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง
3. เมื่อท่านคลิกทำ Test แล้ว ให้ดูเฉลยที่ตอนบนของหน้า
4. อย่าลืมคลิก Part 2 ที่ตอนล่างของหน้า เมื่อทำเสร็จ Part 1 แล้ว

เว็บนี้มีประโยชน์มากครับ ท่านสามารถจดจำประโยคเหล่านี้ไปใช้ได้จริง ๆ โดยมีหลายหมวด เช่น การพูดขอร้อง พบเพื่อนเก่า ช็อปปิ้ง พูดชมเชย พูดขอบคุณ ไปงานเลี้ยง การถามทาง เป็นต้น

ถ้าท่านต้องการไฟล์การแปลบทสนทนาจากไทยเป็นอังกฤษข้างต้น เพื่อเอาไปลงเครื่องคอมพิวเตอร์และศึกษา โดยไม่ต้องต่อเน็ต ไปดาวน์โหลดได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
[ขั้นตอนการใช้: 1.กระจายไฟล์ zip ที่ดาวน์โหลดเสร็จแล้ว 2.คลิกเข้าไปในโฟลเดอร์ translate_conversation แล้วคลิกที่ไอคอนไฟล์ชื่อ index 3. คลิกใช้เหมือนกำลังต่อเน็ต โดยไม่ต้องต่อเน็ต]
translate_conversation.

test ศัพท์ น่าสนุกจริง ๆ

test ศัพท์ น่าสนุกจริง ๆ
สวัสดีครับ
เว็บข้างล่างนี้ มีการ test ศัพท์จาก อังกฤษ เป็นไทย ที่น่าสนุกทีเดียวครับ แบ่งออกเป็นหลายหมวด หลายระดับ ง่ายมาก - ง่ายน้อย ให้เลือกเล่นตามอัธยาศัย เล่นแล้วจะติดใจครับ

ถ้าคลิกคำตอบผิด เขาก็จะเฉลยทันที และเราก็คลิก Show the Next Question เพื่อทำข้อต่อไป ลองเล่นดูซีครับ
http://iteslj.org/v/th/
InterelaDSD

เปิด ‘ดิก’ ฟรี จากเน็ต

[1]เปิด ‘ดิก’ ฟรี จากเน็ต
สวัสดีครับ
ท่านสามารถเข้าไปเปิดดิกชันนารีใช้ฟรี ๆ มีทั้งดิก อังกฤษ – ไทย และ ดิก ไทย – อังกฤษ ได้จากเว็บข้างล่างนี้ครับ
ถ้าชอบใจเล่มไหน ก็ทำเป็น Favorite ไว้เลย ติดศัพท์ขึ้นมาจะได้คลิกใช้ได้ทันท่วงที
XX http://www.babylon.com/define/122 อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ มี Loy's Dictionary ที่แสดงประโยคตัวอย่างด้วย

XX http://lexitron.nectec.or.th/index.php อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ

XX Doctor San Dictionary http://www.doctorsan.com/dict/ อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ

XX http://truehits.net/dic.php อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ

http://www.objectgraph.com/dictionary/

http://dictionary.meelink.com/Smartsearch/thai_english_dictionary_online.php?key=dictionary

XX http://www.cyberdict.com/main.php?filename=dictonline_englist_th อังกฤษ - ไทย

XX http://www.cyberdict.com/main.php?filename=dictonline_thai_th ไทย - อังกฤษ

XX http://www.pixiart.com/dict/ อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ

XX http://service.thaiza.com/dict_translate.php อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ
XX http://www.khonkaenlink.com/dic/ อังกฤษ - ไทย - อังกฤษ

XX http://www.siamdic.com/search.php อังกฤษ – ไทย – อังกฤษ

XX http://www.thai-language.com/dict/ อังกฤษ – ไทย – อังกฤษ
XX http://english-thai-dictionary.com/ อังกฤษ - ไทย - อังกฤษ
XX http://www.dicpro.com/ อังกฤษ – ไทย – อังกฤษ
XX http://www.itpart.net/dict/ อังกฤษ – ไทย – อังกฤษ
XX http://dic.moohin.com/ อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ
XX http://wordbook.rackhub.com/appendix/a.html อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ
XX http://www.nextproject.net/online/dictionary/ อังกฤษ – ไทย & ไทย – อังกฤษ

รวม พจนานุกรม, ดิกชันนารี่, สารานุกรม - Dictionary
http://www.kingtranslations.com/tool.htm
http://www.thaiwebhunter.com/dictionary.html